Tuesday, April 22, 2014

วิธีการเลือกการออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเปรียบเสมือนการให้อาหารเสริมที่ดีกับชีวิตทุกคน  จึงควรออกกำลังกายอยางสม่ำเสมอ  แต่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับกลุ่มอายุด้วย คือ เริ่มจากเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี  เน้นที่ความสนุกของเด็กเป็นหลัก  เพื่อ ฝึกความคล่องตัว และรู้จักเล่นกับเพื่อนเป็นการออกกำลังกายเบาๆ ง่ายๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากนัก เช่น วิ่ง  เล่นเกมส์  กายบริหารประกอบดนตรี  ปีนไต่  ยิมนาสติก  ที่สำคัญพ่อแม่ไม่ควรมุ่งให้ลูกฝึกเพื่อเอาชนะ  เพราะไม่ดีกับสุขภาพเด็ก

วัย 11-14 ปี

       เน้นเรื่องความคล่องแคล่วและปลูกฝังน้ำใจนักกีฬา  จึงควรเล่นกีฬา  หลากหลายเพื่อพัฒนาร่างกายทุก ส่วน เช่น ปิงปอง แบดมินตัน ยิมนาสติก ฟุตบอล แชร์บอล ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน ที่เป็นข้อห้ามคือชกมวย และการออกกำลังกายที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิ่งไกล  กระโดดไกล  ยกน้ำหนัก  รักบี้  ยิมนาสติกที่มีแรงกระแทกสูง เพราะจะขัดขวางการเติบโตและความยาวของกระดูก

 วัย 15-17 ปี 

        เริ่มมีความแตกต่างระหว่างเพศ ผู้ชายจะออกกำลังกายเพื่อให้เกิดกำลัง ความแข็งแรง รวดเร็ว อดทน เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เล่นบาส วอลเล่ย์บอล โปโลน้ำ ขณะที่ผู้หญิงออกกำลังกายที่ไม่หนักแต่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของร่างกาย เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ถีบจักรยาน เต้นแอโรบิค เทนนิส
 

วัย 18-35 ปี 

        ควรออกกำลังกายหลายๆ อย่างเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อทุกส่วน เช่น วิ่ง ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิก เล่นกีฬา เช่น บาสเกตบอล เทนนิส ฟุตบอล แบดมินตัน ปิงปอง สคว้อช กอล์ฟ ลีลาศ
 

วัย 36-59 ปี 

       วัยนี้ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัวของเอ็น และข้อต่อ มีแต่เสื่อมลงทุกวันควรออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ  5 วันๆ ละ 30 นาทีจะฟื้นฟูร่างกายได้  ที่ควรทำคือ  เดินเร็ว วิ่งเหยาะ ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ   เต้นแอโรบิค   และเมื่ออายุ 60 ปีขึ้นไป การออกกำลังกายด้วยการเดิน กายบริหาร รำมวยจีน ซีกง ถีบจักรยานอยู่กับที่ ว่ายน้ำ จะช่วยเสริมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้ดีขึ้น

ขั้นตอนการออกกำลังกายที่ถูกวิธี

ขั้นตอนการออกกำลังกาย

         ขั้นตอนที่ 1 การอุ่นร่างกาย( Warm up) ก่อนที่จะออกกำลังกาย  ต้องอบอุ่นร่างกายก่อน  เช่น  ถ้าจะออกกำลังกายด้วยการวิ่ง   ก็ไม่สมควรที่จะลงวิ่งทันที  เมื่อไปถึงสนามควรจะอุ่นร่างกายมี อุณหภูมิสูงขึ้นก่อน ช้าๆ เช่น การเคลื่อนไหวร่างกาย  สะบัดแข้ง  สะบัดขา  แกว่งแขน  วิ่งเหยาะอยู่กับที่    อย่างช้าๆ   ชั่วระยะเวลาหนึ่งก่อน แล้วจึงออกวิ่ง  ดังนั้น การอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายจึงเป็นขั้นตอนแรกที่จะต้องกระทำ
        ขั้นตอนที่ 2  เป็นขั้นตอนการออกกำลังอย่างจริงจัง  การออกกำลังกายนั้นจะต้องเพียงพอ  ทำ ให้ร่างกายเกิดการเผาไหม้อาหารในร่างกาย  โดยใช้ออกซิเจนในอากาศ  โดยการหายใจเข้าไปเพื่อทำให้ เกิดพลังงานจนถึงระดับหนึ่ง  การที่จะออกกำลังกายได้ถึงระดับนี้ เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ออกกำลังกายจะต้องเข้าใจให้ถูกต้อง          
        ขั้นตอนที่ 3  เป็นขั้นตอนการผ่อนให้เย็นลง คือ เมื่อได้ออกกำลังกายตามกำหนดที่เหมาะสม   ตามขั้นตอนที่ 2 แล้ว ควรจะค่อยๆ ผ่อนการออกกำลังกายลงที่ละน้อยแทนการหยุดการออกกำลังกายโดยทันที ทังนี้เพื่อให้เลือดที่คั่งอยู่ตามกล้ามเนื้อ ได้มีโอกาสกับคืนสู่หัวใจ

บัญญัติ 10 ประการในการออกกำลังกาย

         1.  ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน
        2.  ออกกำลังกายครั้งละ 15-30 นาที
        3   ออกกำลังกายแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่าหักโหม
        4.  ควรอบอุ่นร่างกายก่อนออกกำลังกายและผ่อนกายก่อนเริ่มออกกำลังกาย
        5.  ออกกำลังกายให้เหมาะสมกับวัย
        6.  ออกกำลังกายที่ให้ความสนุกสนาน
        7.  แต่งกายให้เหมาะสมกับกับชนิดของการออกกำลังกาย
        8.  ออกกำลังกายในสถานที่ปลอดภัย
        9.  ควรออกกำลังกายหลากหลายชนิด
      10.  ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ต้องตรวจสุขภาพก่อนออกกำลังกาย

ข้อควรระวังในการออกกำลังกาย

           ในวัยสูงอายุ การออกกำลังกาย คือส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน ที่ทำให้ สุขภาพดี กระฉับกระเฉง หนุ่มสาวกว่าวัย    แพทย์แนะนำ    วิธีชะลอความชราหรือการเสื่อมของร่างกายว่า การออกกำลังกาย จะช่วยได้มาก เพราะทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ช่วยการเคลื่อนไหวของกระดูกและข้อ  ลดอาการท้องผูก   ทำให้หลับง่าย  แต่อย่างไรก็ตาม ในวัยสูงอายุมี ข้อควรระวัง 10 ประการในการออกกำลังกาย โดยหากพบเพียงอาการหนึ่งให้ หยุด ออกกำลังกายทันที 10 ข้อนี้   ได้แก่
               1.  หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจเต้นเร็ว ไม่สม่ำเสมอ
               2.  เจ็บที่บริเวณหัวใจ ปวดแน่นบริเวณลิ้นปี่
               3.  หายใจไม่เต็มอิ่ม รู้สึกเหนื่อย
               4.  รู้สึกวิงเวียน เวียนหัว ควบคุมลำตัวหรือแขนขาไม่ได้
               5.  เหงื่อออกมาก ตัวเย็น
               6.  รู้สึกหวั่นไหวอย่างทันทีโดยหาสาเหตุไม่ได้
               7.  มีอาการอ่อนแรงหรือเป็นอัมพาต บริเวณแขนขาอย่างกระทันหัน
               8.  มีอาการตามัว
               9.  มีอาการพูดไม่ชัด หรือพูดตะกุกตะกัก
             10.  หัวใจเต้นแรง แม้จะหยุดพักประมาณ 10 วินาทีแล้วก็ตาม
        หากมีอาการใดอาการหนึ่งใน 10 ข้อ นี้   ให้หยุดออกกำลังกายแล้วปรึกษาแพทย์ทันที  โดยสามารถขอคำปรึกษา เพื่อดูแลรักษาสุขภาพได้ที่สถานีอนามัยใกล้บ้าน สถานส่งเสริมอนามัยแม่และเด็ก ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพเขต โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาลทั่วไป

เครดิต http://www.srinagarind-hph.kku.ac.th

No comments:

Post a Comment